พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลประเทศอังกฤษที่เป็นนิยมที่สุดของโลก กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกไม่กี่วันแล้ว หลายๆทีมนั้นต้องบอกว่ามีเวลาเตรียมทีมกันค่อนข้างน้อย ด้วยเหตุผลจากภาวการณ์กระทบของไข้โควิด19 รวมไปถึงสถานการณ์การเงินที่โดนผลกระทบไม่ใช่น้อย
จึงทำให้การจับจ่ายซื้อขายนักเตะอาจจะไม่คึกคักเหมือนฤดูกาลก่อนๆที่ผ่านมา ที่แต่ละทีมมักจะใช้เงินก้อนโตทุ่มซื้อนักเตะดังๆ เข้ามาร่วมทีม ซึ่งถ้าไม่นับเชลซีที่มีเงินและงบในการซื้อนักเตะมาจากปีก่อนหลงเหลืออยู่ ในส่วนทีมที่เหลือก็ต้องใช้เงินอย่างประหยัดกันพอสมควรตามเท่าที่มี
ซึ่งบางทีมก็ต้องจำใจซื้อเพื่อเป็นการกระตุ้นนักเตะในทีมให้มีความตื่นตัวและพร้อมจะแย่งชิงการแข่งขันภายในเพื่อตำแหน่งตัวจริงของตนเอง ในส่วนของแชมป์เก่าอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูลนั้น ก็มีทีมที่ลงตัวอยู่แล้ว และทางผู้จัดการทีมอย่าง คล๊อป ก็น่าจะใช้ตัวเดิมยืมพื้น และให้โอกาสอย่าง เกอิต้า กับ ทาคุมิ มีส่วนร่วมมากกว่าเดิม
ซึ่งหากจะมีการซื้อเพิ่มก็คงจะลุ้นกันแค่ อัลกันตาร่า ของเสือใต้ บาเยริน์ เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และในด้านของผีแดง แมนยูไนเต็ด เอง ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเยอะ เพราะแกนหลักก็เริ่มจะลงตัว ปีนี้ก็มีเสริมแดนกลางอย่าง ฟาน เดอเบ๊ค เข้ามาเป็นทางเลือกให้มีมิติในแดนกลางมากขึ้น
หากจะเพิ่มก็คงมีกองหลังที่จะมายืนคู่กับ แมกไกว์ อีกสักคน เป็นทางเลือก ซึ่งทั้งหงส์แดงและผีแดง ต่างก็ยึดมั่นกับนักเตะเดิม แต่เชลซี แตกต่างออกไปที่เสริมทัพนักเตะอย่างน้อยก็ห้าถึงหกคนแล้ว เรียกได้ว่าเสริมกันเกือบทุกตำแหน่ง ซึ่งระยะยาวอาจจะเป็นผลดี แต่ช่วงแรกๆ อาจจะสะดุดเพราะเปลี่ยนตัวกันเยอะเหลือเกิน ส่วนเรือใบสีฟ้านั้น
หากได้เมสซี่ แน่นอนว่าชื่อชั้นคงแข็งโป๊ก แต่เชื่อว่าระบบทีมคงเปลี่ยนกันวุ่นแน่นอน และไม่รู้ว่าจะเข้ากับบอลอังกฤษได้ไหม คงต้องลุ้นกันมากทีเดียว เพราะด้วยการเล่นของทีมเรือใบสีฟ้านั้น เน้นการเล่นเป็นทีมจนไหลเป็นเครื่องจักรทำงานไปแล้ว หากต้องปรับมาเล่นเพื่อคนเดียวให้เกิดศิลปินเดี่ยวขึ้นมา เครื่องจักรเรือใบสีฟ้า
อาจจะมีการทำงานสะดุด และด้วยสไตล์การเล่นของ เป๊ป ยอดกุนซือเรือใบนั้น เป็นสไตล์เพรสซิ่ง จึงไม่น่าจะเข้ากับเมสซี่ เท่าไหร่ ดังนั้นจึงมีคำถามว่าการที่จะเอาเมสซี่มานั้น มันจะดีกับแมนซิตี้ จริงๆเหรอ แต่ไม่ว่าอย่างไร ฤดูกาลใหม่ก็กำลังจะเปิดแล้ว คงไปหาคำตอบกันจริงๆ น่าจะดีกว่า
สนับสนุนโดย ole777